วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ไส้กรอก กับ ฮอตด็อก ต่างกันอย่างไร

เริ่มต้นที่ไส้กรอก อาหารเลิศรสที่ได้จากการนำเนื้อบด ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่ หรือพิสดารขึ้นไปอีก เช่นเนื้อแกะ เนื้อแพะ ผสมเข้ากับมันของเนื้อสัตว์ สมุนไพร และเครื่องเทศ หรือเครื่องปรุงอื่นๆ ตามความชื่นชอบของแต่ละท้องถิ่น แล้วนำมากรอกใส่ลำไส้ของสัตว์ และนำไปรมควัน
ทั้งนี้ ชาวสุเมเรียนซึ่งคือชาวอิรักในปัจจุบันน่าจะเป็นชนชาติแรกที่ประกอบอาหารประเภทนี้ขึ้นมาเมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล นอกจากนี้ยังพบหลักฐานว่ามีการผลิตไส้กรอกในจีนเมื่อ 589 ปีก่อนคริสตกาล และไส้กรอกยังปรากฏอยู่ในวรรณคดียุคคลาสสิก เดอะ โอดิสซี ของกวีเอกโฮเมอร์อีกด้วย

ส่วนฮอตด็อกก็คือไส้กรอกที่ปรุงจนสุกหรือผ่านการรมควันแล้ว ต่างจากไส้กรอกที่จะขายแบบสุกหรือดิบก็ได้ และฮอตด็อกมักทำมาจากเนื้อหมู หรือเนื้อวัว หรือเนื้อทั้งสองอย่างผสมกัน และมักจะมีรูปร่างและรสชาตินุ่มและชุ่มฉ่ำกว่าไส้กรอกส่วนใหญ่
ฮอตด็อกยังถูกเรียกชื่ออื่นแตกต่างไปตามท้องถิ่นอีก เช่นเรียกว่า แฟรงก์เฟอร์เตอร์ หรือสั้นๆ ว่าแฟรงก์ (ได้รับชื่อนี้หลังจากชื่อเมืองแฟรงก์เฟิร์ตของเยอรมนี) และเวียนเนอร์หรือวีนนี่ (ชื่อเมืองเวียนนา ของออสเตรีย ซึ่งชื่อภาษาเยอรมันคือ เวียน)
นอกจากนี้เรายังเรียกไส้กรอกที่วางอยู่บนขนมปังที่มีรูปร่างเหมือนไส้กรอกนุ่มๆ ร้อนๆ ผ่ากลาง มีผักเป็นเครื่องเคียง ทั้งหอมใหญ่ มะเขือเทศ แตงกวาดอง และโรยหน้าด้วยซอสหรือเครื่องปรุงอื่น เช่น มายองเนสและมัสตาด ซึ่งเป็นอาหารยอดนิยมของชาวอเมริกันว่าฮอตด็อกเช่นกัน
และที่น่าสนใจอีกเรื่องเกี่ยวกับของกินประเภทนี้คือ มีการแข่งขันกินฮอตด็อกซึ่งทาเครุ โคบายาชิจอมเขมือบจากแดนอาทิตย์อุทัยเพิ่งจะทำลายสถิติกินฮอตด็อกเร็วที่สุดในโลกของตัวเองในรายการนาธานเฟมัส ณ นครนิวยอร์กไปเมื่อ 4 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง โดยในครั้งนี้เขาเขมือบฮอตดอกช็อคสายตากรรมการเข้าไปได้ถึง 53 เศษ 3 ส่วน 4 ชิ้นทีเดียว

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

ดอกไม้ที่บ้านบานแล้ว!!!!!



หลังจากที่รอคอยมานาน ตอนนี้ดอกไม้ก็ได้เวลาบานแว้ว
เค้าเรียกว่าต้นอะไรนะ??? อ๋อ!!เค้าเรียกว่าต้นว่าน 4 ทิศ
จริงๆแล้วดอกมันจะหันไปดอกละทิศ...แต่นี้มันไม่ค่อหันทำไงดีล่ะ

Taj Mahal


Le Taj Mahal (en hindi ताज महल) est situé à Âgrâ, au bord de la rivière Yamunâ dans l'État de l'Uttar Pradesh en Inde. C'est un mausolée construit par l'empereur moghol Shâh Jahân en mémoire de son épouse Arjumand Bânu Begam, aussi connue sous le nom de Mumtaz Mahal, qui signifie en persan « la lumière du palais ». Elle meurt le 17 juin 1631 en donnant naissance à leur quatorzième enfant alors qu'elle allait à la campagne. Elle trouve une première sépulture sur place dans le jardin Zainabad à Burhampur.

La construction commence en 1632. Cependant, il demeure une polémique sur la date exacte de la fin des travaux. Le chroniqueur officiel de Shah Jahan, Abdul Hamid Lahori indique que le Taj Mahal est achevé fin 1643 ou début 1644. Mais à l'entrée principale une inscription indique que la construction s'est achevée en 1648. L'État de l'Uttar Pradesh, qui a célébré officiellement le 350e anniversaire de l'édifice en 2004, affirme quant à lui que les travaux se sont achevés en 1654. Parmi les 20'000 personnes qui ont travaillé sur le chantier, on trouve des maîtres artisans venant d'Europe et d'Asie centrale. L'architecte principal fut Usad Ahmad de Lahore. Le 7 juillet 2007, le célèbre monument a été désigné comme l'une des sept nouvelles merveilles du monde par un organisme non officiel et à caractère commercial (NewOpenWorld Foundation

ก็ไม่กล้าแปลอะกลัวผิด เลยเอาที่มีอยู่แล้วมาฝาก

ทัชมาฮาล สุสานหินอ่อนที่ผู้คนเชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก ถูกสร้างขึ้นโดยกษัตริย์อินเดียผู้มีรักมั่นคงต่อพระมเหสีของพระองค์ เจ้าชายขุร์รัม ชึ่งต่อมาคือจักรพรรดิชาห์ ชหาน พระราชสมภพในปี พ.ศ. 2135 (ค.ศ. 1592) พระบิดา คือ จักรพรรดิ ชาห์ ชหานชีร์ จักรพรรดิองค์ที่สี่แห่งราชวงศ์โมกุล แห่งอินเดีย ตามตำนานกล่าวว่า เจ้าชายขุร์รัม ได้พบกับ อรชุมันท์ พานุ เพคุม ธิดาของรัฐมนตรี เมื่อพระองค์ มีพระชนมายุ 14 พรรษา พระองค์ทรงหลงใหลและหลงรักนาง เจ้าชายขุร์รัมจึงซื้อเพชรด้วยเงิน 10,000 รูปีและบอกแก่พระบิดาของพระองค์ว่าพระองค์มีความประสงค์ที่จะแต่งงานกับบุตรสาวของรัฐมนตรี พิธีอภิเษกถูกจัดขึ้นหลังจากนั้น 5 ปี ในปี พ.ศ. 2155 (ค.ศ. 1612) จากนั้นมาทั้งสองก็มิเคยอยู่ห่างกันอีกเลย

หลังจากที่พระเจ้าชาห์ ชหาน ขึ้นครองราชบัลลังก์ในปี พ.ศ. 2171 พระองค์มอบความไว้วางใจแก่ อรชุมันท์ พานุ เพคุม และเรียกนางว่า มุมตัซ มาฮาล "อัญมณีแห่งราชวัง" พระมเหสีติดตามพระองค์ แม้แต่ในสนามรบ แนะนำพระองค์ในเรื่องราชการของประเทศ และพระองค์ซาบซึ้งในน้ำพระทัยของพระมเหสียิ่งนัก ครั้นในปี พ.ศ. 2174 (ค.ศ. 1631) พระมเหสีมุมตัซสิ้นพระชนม์ หลังจากให้กำเนิดทายาทองค์ที่ 14 การสิ้นพระชนม์ของพระมเหสีทำให้พระเจ้าชาห์ ชหานโศกเศร้าอยู่ถึงสองทศวรรษ ราชสมบัติส่วนใหญ่สูญเสียไปเพื่อการสร้างอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสองพระองค์

ในปี พ.ศ. 2200 (ค.ศ. 1657) พระเจ้าชาห์ ชหานทรงพระประชวร และในปี พ.ศ. 2201 (ค.ศ. 1658) พระโอรส โอรังเซบ จับพระเจ้าชาห์ ชหานขัง และขึ้นครองราชบัลลังก์เเทน พระองค์ถูกกักขังอยู่ถึง 8 ปี จนกระทั่งสวรรคตในปี พ.ศ. 2209 (ค.ศ. 1666) ตามตำนานกล่าวว่าให้วันสุดท้ายของชีวิตพระองค์ใช้เวลาทั้งวันในการจ้องมองเศษกระจกที่สะท้อนภาพของทัชมาฮาล และสิ้นพระชนม์ด้วยเศษกระจกในกำมือ พระเจ้าชาห์ ชหานถูกฝังในทัชมาฮาล เคียงข้างมเหสีซึ่งพระองค์ไม่เคยลืม มีบางคนกล่าวว่าพระเจ้าชาห์ ชหาน มิได้ประสงค์ที่จะถูกฝังร่วมกับประมเหสี แต่พระองค์มีแผนการที่จะสร้างสุสานอีกแห่งด้วยหินอ่อนสีดำ เพื่อเป็นสุสานของพระองค์ แต่ผู้รู้หลายท่านเชื่อว่าพระองค์ประสงค์ที่จะถูกฝังเคียงข้างพระนางมุมตัซ มาฮาล
ขนาด
ทัชมาฮาลถูกพิจารณาให้เป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคใหม่ ทัชมาฮาลตั้งอยู่ในสวนริมฝั่งแม่น้ำยมุนา ในเมืองอาครา ส่วนที่มีชื่อเสียงที่สุด คือ หลุมศพของพระนางมุมตัซ มาฮาล ซึ่งถูกสร้างด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมราและเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ได้รับคำรับรองว่าสร้างขึ้นด้วยสัดส่วนที่วิจิตรและงดงามที่สุด กว้างยาวด้านละ 100 เมตร สูง 60 เมตร มีผู้สร้างและออกแบบร่วม 20,000 คน การก่อสร้างกินเวลานานถึง 22 ปี ทัชมาฮาลมีเนื้อที่ประมาณ 42 เอเคอร์ เป็นที่ตั้งของมัสยิด มีหออาซาน (หอสูงสำหรับร้องเเจ้งเวลาทำนมาซ)และมีสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ นายช่างที่ออกแบบถูกประหารชีวิตเพื่อมิให้ไปออกแบบสถาปัตยกรรมใด ๆ ที่สวยกว่าได้ ส่วนหัวของทัชมาฮาลมีลักษณะโดมที่เรียกว่าโอเนียนโดม

วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

Bon anniversaire !!



วันที่ 21 เป็นวันเกิดของใครน้า??
สุขสันต์วันเกิดนะจ๊ะอุษา(สาหร่าย)มีความสุขมากๆนะ

5/7 สู้ สู้

ช่วงนี้ก็ต้องสอบหลายวิชาเลย เมื่อวันศุกร์ก็เพิ่งสอบคณิต
(เป็นวิชาโปรดของพวกเราทุกคนเลยใช่รึเปล่าน้า)แล้วก็สังคมด้วย
หวังว่าคะแนนที่ออกมาคงจะทำให้ยังคงยิ้มได้อยู่นะ
เดี๋ยววันจันทร์เราก็ต้องสอบฝรั่งเศสกับอังกฤษ เป็นกำลังใจให้ทุกคนเลยนะ
ตั้งใจทำข้อสอบ เดี๋ยววันอังคารนี้เค้าก็ต้องพูดภาษาไทยหน้าห้องแล้ว ตื่นเต้นจัง
อยากให้ทุกคนเเป็นกำลังใจให้ด้วยนะ สู้ สู้ สู้ตาย

Le maniement des baguettes



SAVOIR-VIVRE

Le maniement des baguettes

Tenez la baguette au deux tiers de sa longueur maintenez-la entre l'index et le pouce, et laissez reposer la baguette sur le petit doigt

Tenez fermement la seconde baguette avec le pouce et le majeur. C'est elle qui pince les aliments.

Vous comprendrez pourquoi la viande ou les légumes sont toujours coupés en morceaux : pouvoir les porter à la bouche au moyen des baguettes

Ne laissez pas tomber vos baguettes par terre, ni les croiser sur votre bol, ou les diriger vers le ciel ou vers quelqu'un, cela porte malheur. Quand vous avez fini de manger, posez-les sur la table.


À table

L'invité d'honneur se trouve en face du maître de maison qui est placé le dos à la porte. Les femmes mariées s'asseyent à la droite de leur mari.

Au début du repas, l'invité doit en premier saisir les baguettes et attendre que la maîtresse ou le maître de maison commence à manger et prononce les mots "seck fan" (littéralement " mangeons du riz").
La politesse veut qu'on mange lentement. L'invité d'honneur se voit toujours proposer les morceaux de choix.

N'ayez pas peur d'approcher votre bol au bord des lèvres et de pousser le riz vers votre bouche. Il est plus facile de le manger de cette manière que de le prendre par grain . Il n'est pas incongru de faire du bruit en mangeant, par contre on évitera de se moucher.

Si l'on boit du thé, chaque convive le servira à tour de rôle, et on tapotera du bout des doigts sur la table en guise de remerciements.
(symbole de révérence)

Selon Le Livre de l'Étiquette (écrite il y a 3000 ans), on ne doit pas remuer le riz dans son bol, manger trop vite, trop remplir son bol, choisir les morceaux dans l'assiette commune.

C'est l'invité d'honneur qui devra se lever pour donner le signal du départ.

วันเสาร์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2550



Cool Slideshows!

Bordeaux

Bordeaux [1] est une ville du sud-ouest de la France, chef-lieu de la région Aquitaine et du département de la Gironde. La commune est peuplée de 230 600 habitants (2005), tandis que l'air urbaine (Bordeaux-Arcachon-Libourne) compte 1 250 000 habitants. Elle est traversée par la Garonne. Ses habitants sont appelés les Bordelais.

La ville est connue dans le monde entier pour ses vignobles, surtout depuis le XVIIIe siècle, qui fut pour elle un véritable âge d'or. Capitale de l'ancienne Guyenne (approximativement l'Aquitaine actuelle), Bordeaux fait partie de la Gascogne et elle est située en bordure des Landes de Gascogne. Une partie de la ville, le port de la Lune, est classée depuis juin 2007 au Patrimoine Mondial de l'Humanité par l'UNESCO pour l'ensemble urbain exceptionnel qu'il représente[2].